ว่านสบู่เลือดเถา



ว่านสบู่เลือด กระท่อมเลือด สบู่เลือด


ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า STEPHNIA PIERREI DIELS
วงศ์ MENISPERMACEAE
ลักษณะ
เป็นไม้ล้มลุก มีหัวใต้ดินขนาดใหญ่ ลำต้นแทงขึ้นจากหัว มักพาดพันกับต้นไม้อื่น หรือลำต้นโค้งงอลงสู่พื้นดิน เป็นไม้กึ่งเลื้อยทอดยาวได้กว่า 3-5 เมตร
ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ รูปเกือบกลม หรือ กลมคล้ายใบบัว แต่จะมีขนาดเล็กกว่า เส้นผ่าศูนย์กลางใบประมาณ 3-6 ซม. ก้านใบยาว 2-3.5 ซม. ติดที่กลางแผ่นใบ เวลามีใบดกน่าชมมาก

ดอก
ออกเป็นช่อกระจุกที่ซอกใบ เป็นดอกแยกเพศ กลีบเลี้ยง 4-5 กลีบ รูปขอบขนาน สีเหลือง ไม่มีกลีบดอก

ผล
ทรงกลม มี 1 เมล็ด รูปเกือกม้า หัว กลมแป้น ขนาดใหญ่ประมาณลูกฟุตบอล เปลือกหัวสีน้ำตาล เนื้อในสีขาวนวล รสชาติมันและเฝื่อนเล็กน้อย เป็นไม้เติบโตดีในฤดูฝน ทรุดโทรมหรือตายในฤดูแล้ง โดยฝังหัวใต้ดิน เมื่อมีเม็ดฝนโปรยปรายลงมาในฤดูฝน จะแทงต้นขึ้นมาใหม่ ขยายพันธุ์ด้วยหัว พบขึ้นทั่วไปตามป่าธรรมชาติทุกภาคของประเทศไทย มีชื่อ เรียกอีกคือ เปล้าเลือดเครือ (ภาคเหนือ) บัวกือ (เชียงใหม่-เพชรบุรี) บัวเครือ (เพชรบูรณ์) บัวบก (นครราชสีมา-อุบลฯ-กาญจนบุรี) และ โกฐหัวบัว (ภาคกลาง)

สรรพคุณทางสมุนไพร
ยาพื้นบ้านอีสานใช้ หัว ต้มน้ำดื่ม บำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อย หรือเอาหัวสดหั่นบางๆ ดองกับเหล้าขาว 40 ดีกรี กะจำนวนตามต้องการ ดื่มก่อนอาหาร 3 มื้อและก่อน นอน ครั้งละ 1 แก้วเป๊ก เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงกำหนัดเด็ดขาดนัก หมอยาบางพื้นที่ใช้หัวสดกับก้านใบกะจำนวนพอประมาณกินร่วมกับเหล้าขาว 40 ดีกรี จะทำให้ผิวหนังเกิดอาการชา ถูกเฆี่ยนหรือตีอย่างไรก็ไม่เจ็บ แต่เมื่อ หมดฤทธิ์ยาแล้วจะเกิดอาการเจ็บในภายหลัง นักเลงหัวไม้สมัยก่อนนิยมกันแพร่หลาย
นอกจากนั้น หัวสดเอาไปตำพอกรักษาแผลเรื้อรัง หรือหั่นเป็นชิ้นบางๆ 3-4 แว่น ตำละเอียดรวมกับน้ำซาวข้าว หรือเหล้าขาว 40 ดีกรี คั้นเอาเฉพาะน้ำกิน 1 ถ้วยชา เช้าเย็นและก่อนนอน แก้ตกเลือดของสตรี แก้มุตกิด ระดูขาว ตกขาว ได้ชะงัดนัก ส่วนดอก รักษาโรคเรื้อน ราก หรือหัว แก้หืด ตำพอกศีรษะ แก้ปวดศีรษะ 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น